ฉ่ำโกลว์ กระชับ ไร้ริ้วรอย และเรียบเนียน ไม่ว่าอายุเท่าใด ผิวพรรณในอุดมคติของผู้หญิงส่วนใหญ่ก็อธิบายได้ด้วยคำไม่กี่คำเหล่านี้ และถึงแม้เราจะเข้าใจตรงกันว่าไม่มีวิธีใดจะหยุดยั้งความเสื่อมถอยเนื่องจากความชรา แต่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเข้มข้นบางชนิดก็สามารถช่วยชะลอการปรากฏของสัญญาณแห่งวัยที่มองเห็นได้ เช่น จุดด่างดำ ความหย่อนคล้อย ริ้วรอยร่องตื้น และรอยเหี่ยวย่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดูแลผิวด้วยทรีตเมนต์เพื่อความงามร่วมด้วย ด้านล่างนี้เราจะลงลึกถึงสกินแคร์สำคัญที่คุณควรมีไว้ในคลังแสงแห่งความสวย พร้อมทั้งแนะนำทรีตเมนต์เพื่อความงามที่จะทำให้คุณมีผิวหน้าสวยดั่งใจในวัย 20 30 40 50 หรือมากกว่า
ช่วงอายุ 20 – วัยของการป้องกันและบำรุง
ช่วงอายุ 20 คือวัยที่ผิวคุณดูกระจ่างใสและอิ่มสวย ก่อนที่จุดด่างดำจากแสงแดดและริ้วรอยร่องตื้นจะเริ่มปรากฏหรือขากรรไกรล่างเริ่มหย่อนคล้อยอันเนื่องมาจากกระบวนการตามธรรมชาติของความชรา รวมถึงรูปแบบไลฟ์สไตล์ที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ในวัย 20 คุณควรมองการณ์ไกลด้วยการสร้างสกินแคร์รูทีนที่ดี ยิ่งคุณเริ่มสร้างอุปนิสัยที่ดีในการดูแลผิว เช่น การทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกเพื่อล้างเครื่องสำอาง ความมัน และสิ่งสกปรกก่อนเข้านอน (ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน!) หรือการทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน คุณก็จะยิ่งได้เปรียบในเรื่องของการป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยและการดูแลผิวให้เรียบเนียน รูขุมขนกระชับมากเท่านั้น ช่วงอายุ 20 คือวัยที่คุณดูดีที่สุด และคุณสามารถดูแลผิวให้สวยยิ่งขึ้นได้โดยการบำรุงผิวเล็กน้อยด้วยตัวช่วยทรีตเมนต์เพื่อความงามอย่างฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนิกแอซิดและนิวโรทอกซินบริสุทธิ์*
ทรีตเมนต์เพื่อความงาม:
• ฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนิกแอซิด: ไม่ว่าคุณจะอยากมีสันจมูกที่ได้รูปยิ่งขึ้น โหนกแก้มสูงขึ้น คางที่เรียวขึ้น หรือกรอบหน้าคมชัด ฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนิกแอซิดก็ช่วยปั้นแต่งและทำให้คุณมีโครงหน้าสวยงามได้สัดส่วนยิ่งขึ้น
• นิวโรทอกซินบริสุทธิ์*: โดยทั่วไปจะใช้เป็นมาตรการป้องกันเพื่อคลายกล้ามเนื้อใบหน้าและป้องกันการเกิดริ้วรอยจากการขยับ
สกินแคร์:
• ครีมกันแดด: การทาครีมกันแดดแบบออกฤทธิ์กว้างที่ช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB ด้วยค่า SPF 30 ขึ้นไปคือสิ่งที่ไม่ว่าวัยไหนก็ถือเป็นภาคบังคับ การทาครีมกันแดดเป็นประจำจะช่วยป้องกันการเกิดจุดด่างดำและการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอิลาสตินในผิว ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นและรูขุมขนกว้าง
• เคลนเซอร์: ขั้นตอนพื้นฐานที่สุดแต่สำคัญอย่างยิ่งในทุกสกินแคร์รูทีนก็คือการทำความสะอาด ควรเลือกใช้เคลนเซอร์ที่ช่วยขจัดเครื่องสำอาง สิ่งสกปรก และความมัน โดยไม่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นที่จำเป็นจนผิวแห้งขาดน้ำ
• วิตามินซี: สารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังอย่างวิตามินซีจะช่วยปกป้องคุณจากอนุมูลอิสระที่ทำร้ายผิว ซึ่งมีสาเหตุมาจากการสัมผัสรังสียูวีและมลภาวะในอากาศ นอกจากนี้ วิตามินซียังยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินในผิว ช่วยให้จุดด่างดำดูจางลง ปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้น และเมื่อใช้ควบคู่กับครีมกันแดดก็จะเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันให้ดียิ่งขึ้นได้
ช่วงอายุ 30 – วัยของการดูแล
เมื่อแตะ 30 อัตราการผลัดเซลล์ผิวของคุณจะลดลง การผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินธรรมชาติก็เริ่มล่าช้า ผลก็คือคุณจะเริ่มสังเกตเห็นรอยตีนกา ริ้วรอยร่องตื้นระหว่างคิ้ว และผิวก็ให้ความรู้สึกนุ่มเด้งน้อยลงเมื่อสัมผัส ในวัยนี้ คุณควรเร่งอัตราการผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเร่งการผลัดเซลล์ผิวแบบเฉพาะจุด และที่ขาดไม่ได้ก็คือการดูแลปราการความชุ่มชื้นของผิวให้แข็งแกร่ง ถ้ายังไม่เคยทำ คุณอาจพิจารณาจองการนัดหมายกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการเริ่มรักษาด้วยขั้นตอนที่มีการรุกล้ำร่างกายเพียงเล็กน้อย เพื่อดูแลผิวพรรณและบำรุงผิวหน้าอย่างอ่อนโยน
ทรีตเมนต์เพื่อความงาม:
• ฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนิกแอซิด: เพิ่มการเติมน้ำให้ผิวและลดเลือนริ้วรอยร่องตื้นด้วยการทำทรีทเมนต์ด้วยไฮยาลูรอนิกแอซิดลงไปใต้ผิวชั้นตื้น ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวช่วยดูดซับความชุ่มชื้นโดยการกักเก็บน้ำได้มากกว่าน้ำหนักตัวถึง 1,000 เท่า
• นิวโรทอกซินบริสุทธิ์*: ในทำนองเดียวกับที่อธิบายไว้ข้างต้น การทำทรีทเมนต์ด้วยนิวโรทอกซินบริสุทธิ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อใบหน้าและป้องกันการเกิดริ้วรอยร่องลึก
สกินแคร์:
• เรตินอล: การทาเรตินอลหรือวิตามินเอลงบนผิวแบบเฉพาะจุดจะช่วยกระตุ้นอัตราการผลัดเซลล์ผิวที่ล่าช้า ลดเลือนจุดด่างดำ เพิ่มการผลิตคอลลาเจน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ช่วยดูแลผิวคุณให้ดูดีที่สุดนั่นเอง
• ไฮยาลูรอนิกแอซิด: ในวัย 30 การผลิตน้ำมันจะลดลง คุณจึงควรดูแลผิวให้ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ด้วยเซรั่มไฮยาลูรอนิกแอซิดที่ช่วยให้ผิวเก็บกักความชื้นได้ดียิ่งขึ้น
ช่วงอายุ 40 – วัยของการทำทรีตเมนต์ที่ออกแบบเป็นพิเศษ
ริ้วรอยร่องตื้นและการสูญเสียชั้นไขมันใต้ผิวหน้าจะปรากฏชัดขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงวัย 40 นอกจากอุปนิสัยในการใช้สกินแคร์และการมีไลฟ์สไตล์ที่ดีที่คุณสร้างและทำอย่างต่อเนื่องในช่วงอายุ 20 และ 30 ปี ตั้งแต่การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันจนถึงการดื่มน้ำเยอะๆ การไม่สูบบุหรี่ และการนอนหลับอย่างเพียงพอและมีคุณภาพแล้ว การดูแลเพิ่มเติมด้วยทรีตเมนต์เพื่อความงามที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับคุณก็เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่จะทำให้คุณมีผิวโกลว์สวยและแน่นกระชับ
ทรีตเมนต์เพื่อความงาม:
• ฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนิกแอซิด: การทำทรีทเมนต์ด้วยฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนิกแอซิดแบบเจาะจงสามารถช่วยฟื้นฟูการสูญเสียชั้นไขมันใต้ผิวบริเวณแก้มและใต้ตา เติมเต็มร่องแก้มลึกและร่องน้ำหมาก รวมถึงลดเลือนริ้วรอยร่องตื้นและรอยเหี่ยวย่นได้จากภายใน แนะนำให้ทำควบคู่กับนิวโรทอกซินบริสุทธิ์*เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
• นิวโรทอกซินบริสุทธิ์*: ช่วยคลายกล้ามเนื้อหน้า ซึ่งทำให้การปรากฏของรอยเหี่ยวย่นที่มองเห็นได้ดูจางลง รวมถึงป้องกันไม่ให้ริ้วรอยร่องตื้นกลายเป็นริ้วรอยร่องลึกจนเกินแก้ ให้ประสิทธิภาพดีที่สุดเมื่อทำควบคู่กับฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนิกแอซิด
• การใช้คลื่นอัลตราซาวนด์เข้มข้นความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง (MFU-V): กระตุ้นกระบวนการสร้างใหม่ตามธรรมชาติของร่างกาย เพิ่มการผลิตคอลลาเจนใหม่เพื่อยกกระชับผิวหย่อนคล้อยบริเวณเหนือคิ้ว ขากรรไกรล่าง ใต้คาง และลำคอ รวมถึงลดการปรากฏของริ้วรอยร่องตื้นและรอยเหี่ยวย่นตั้งแต่บริเวณลำคอถึงเนินอก
สกินแคร์:
• กรดไกลโคลิก: กรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA) ที่ทำหน้าที่เป็นสารเร่งการผลัดเซลล์ผิวแบบเคมีเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากผิวชั้นบน ทำให้จุดด่างดำดูจางลง และลดการปรากฏของริ้วรอยร่องตื้นและรอยเหี่ยวย่น เพื่อผิวกระจ่างใสและเรียบเนียนยิ่งขึ้น
• เซราไมด์: เซราไมด์คือกรดไขมันที่ช่วยดูแลความสมบูรณ์ให้กับปราการธรรมชาติของผิว ปกป้องผิวจากปัจจัยรุกรานในสภาพแวดล้อม เช่น มลภาวะ เพราะหากปราการผิวอ่อนแอ ก็อาจทำให้เกิดภาวะผิวแห้ง อาการคัน และการอักเสบได้
ช่วงอายุ 50 ขึ้นไป – วัยของการฟื้นฟูสภาพผิว
เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 50 ริ้วรอยส่วนใหญ่จะฝังลึก และผิวของคุณจะสูญเสียความสามารถในการเก็บกักความชื้น ส่งผลให้ผิวมีสัมผัสหยาบกร้านและเหี่ยวย่น เมื่อเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือนและระดับฮอร์โมนเพศหญิงหรือเอสโตรเจนธรรมชาติของร่างกายลดลง ร่างกายก็จะผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินน้อยลง รวมถึงอัตราการผลัดเซลล์ผิวก็ลดลงยิ่งกว่าเก่า จุดด่างดำตามวัยจะเริ่มปรากฏอันเป็นผลมาจากการถูกแสงแดดทำร้ายสะสมและผิวก็จะหย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด การทาสกินแคร์แบบเฉพาะจุดจะช่วยได้ไม่มากนัก เราจึงแนะนำให้ผสมผสานการทำทรีตเมนต์เพื่อความงามชนิดต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการสร้างความกระจ่างใสและแน่นกระชับให้กับผิว เพื่อให้คุณมีผิวพรรณที่ดูอ่อนเยาว์ใกล้เคียงกับเมื่อครั้งยังสาว
ทรีตเมนต์เพื่อความงาม:
• การทำทรีทเมนต์ด้วยฟิลเลอร์: ฟิลเลอร์แคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทท์ (CaHA) จะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินเมื่อเวลาผ่านไป และเมื่อใช้ควบคู่กับฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนิกแอซิดก็จะสามารถรับมือกับการสูญเสียชั้นไขมันใต้ผิวและช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกได้จากภายใน คุณจะพบกับผิวที่มีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้น อิ่มเอิบยิ่งขึ้น และกระจ่างใสยิ่งขึ้น
• นิวโรทอกซินบริสุทธิ์*: ช่วยลดการปรากฏของริ้วรอยด้วยการคลายกล้ามเนื้อหน้า ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ได้ดีที่สุดเมื่อทำควบคู่กับการทำทรีทเมนต์ด้วยฟิลเลอร์
• การใช้คลื่นอัลตราซาวนด์เข้มข้นความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง (MFU-V): เช่นเดียวกับช่วงอายุ 40 ทรีตเมนต์ MFU-V จะช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างใหม่ตามธรรมชาติของร่างกายเพื่อเพิ่มการผลิตคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นกระชับยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงผิวหน้า แต่ยังรวมถึงคอและโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณลำคอถึงเนินอก ซึ่งมักถูกลืมและไม่ค่อยได้รับการดูแล แต่กลับเป็นจุดที่เผยอายุจริงได้ง่ายๆ ช่วงอายุ 50 จึงควรดูแลและใส่ใจในส่วนนี้
สกินแคร์:
• เปปไทด์: เลือกใช้เซรั่มประสิทธิภาพสูงที่ประกอบด้วยไฮยาลูรอนิกแอซิด สารต้านอนุมูลอิสระ และที่สำคัญที่สุดก็คือเปปไทด์ ซึ่งจะช่วยทำหน้าที่เป็นหน่วยโครงสร้างของคอลลาเจนและอิลาสติน โปรตีนสำคัญคู่หูที่ดูแลผิวคุณให้สวยเฟิร์ม
• น้ำมันบำรุงผิว: ผิวของผู้มีอายุจำเป็นต้องได้รับการเติมความชุ่มชื้น คุณจึงควรเลือกใช้น้ำมันบำรุงผิวที่ผิวแห้งขาดน้ำจะสามารถดูดซึมได้ในทันที ให้มองหาน้ำมันสูตรผสมที่อุดมด้วยกรดไขมันสำคัญชนิดต่างๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการอักเสบพร้อมกับทำให้ผิวนุ่มขึ้น ลดการปรากฏของริ้วรอยร่องตื้นและรอยเหี่ยวย่น อย่างไรก็ตาม จากทั้งหมดที่ว่ามานี้ การป้องกันคือสิ่งสำคัญที่สุด และการเริ่มดูแลผิวด้วยทรีตเมนต์เพื่อความงามแบบไม่มีการรุกล้ำร่างกายหรือรุกล้ำเพียงเล็กน้อยตั้งแต่วัยหนุ่มสาวจะช่วยให้คุณมีผิวพรรณอ่อนเยาว์ได้ยาวนานขึ้น ทรีตเมนต์เพื่อความงามนั้นเหมาะสำหรับทุกช่วงวัย การพึ่งพากระบวนการเหล่านี้เพื่อบำรุงและฟื้นฟูผิวไม่มีคำว่าเร็วหรือสายเกินไป คุณสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อสร้างแผนการทำทรีตเมนต์ที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของคุณโดยเฉพาะได้แล้ววันนี้
*บริสุทธิ์ หมายถึง การไม่มีโปรตีนเชิงซ้อน นิวโรทอกซินชนิดไม่ออกฤทธิ์ แฟลกเจลลิน และสารปนเปื้อน DNA ที่ประกอบด้วยแบคทีเรีย1
อ้างอิง: 1. Park JY, et al. Neurotoxin impurities: A Review of threats to Efficacy. Plast Reconstr Surg Glob Open. 2020;8(1):e2627