ทรีตเมนต์ความงามเพื่อลดริ้วรอยรอบดวงตาแบบไม่ต้องผ่าตัด

ลองพิจารณาเข้ารับทรีตเมนต์ที่จะช่วยให้ริ้วรอยรอบดวงตาดูดีขึ้นโดยไม่ต้องพักฟื้นหรือพักฟื้นไม่นาน

ทรีตเมนต์เฉพาะสำหรับรอยตีนกาและริ้วรอยหว่างคิ้ว 

ป้องกันไว้ย่อมดีกว่าแก้ ทรีตเมนต์ที่จะทำงานโดยช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบนใบหน้า กล้ามเนื้อเหล่านี้จะหดตัวเมื่อคุณหัวเราะ พูดคุย หรือแสดงออกทางสีหน้า จนทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตาขึ้นในขณะใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้า ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปแล้วอาจกลายเป็นริ้วรอยที่มองเห็นแม้ไม่ขยับใบหน้าหรือริ้วรอยถาวรได้ ทรีตเมต์ที่ช่วยลดรอยตีนกา และที่บริเวณระหว่างคิ้วเพื่อช่วยลดริ้วรอยหว่างคิ้วแลดูลดเลือน เคล็ดลับจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: เลือกทรีตเมนต์เฉพาะที่บริสุทธิ์ปราศจากคอมเพล็กซิ่งโปรตีน (complexing protein) เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดการดื้อ ซึ่งอาจทำให้การทำทรีตเมนต์ครั้งต่อไปไม่ได้ผลเท่าที่ควรหรือไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง

ทรีตเมนต์ที่ทำให้ริ้วรอยร่องตื้นรอบดวงตาแลดูลดเลือน

ทำให้ร่องตื้นและริ้วรอยรอบดวงตาแลดูลดเลือนด้วยทรีตเมนต์ฟิลเลอร์กลุ่มกรดไฮยาลูโรนิก กรดไฮยาลูโรนิกคือสารธรรมชาติที่พบในร่างกาย โดยมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวเอง กรดไฮยาลูโรนิกจะทำหน้าที่เติมเต็มพื้นที่ภายในผิวส่วนนั้นทันที เพื่อทำให้ร่องตื้นรอบดวงตาแลดูเรียบและตื้นขึ้น ความพิเศษคือ ทำทรีตเมนต์ฟิลเลอร์บริเวณร่องน้ำตา (บริเวณระหว่างพื้นที่ตาล่างกับแก้ม) แล้ว รอยคล้ำใต้ตาก็จะจางลงจนทำให้ใต้ตาดูสดใสขึ้น ส่งผลให้คุณดูอ่อนวัยลงและดูมีการพักผ่อนอย่างเพียงพอยิ่งขึ้นได้ในทันที

ทรีตเมนต์ยกกระชับผิวรอบดวงตา

เพิ่มความสดใสให้ดวงตาของคุณด้วยทรีตเมนต์ที่ใช้เทคโนโลยี Micro-Focused Ultrasound with Visualisation (MFUV) ซึ่งจะยิงพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์แบบไมโครโฟกัสลงลึกเข้าไปในผิวเป็นช็อตโดยไม่รบกวนผิวหน้า เพื่อกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมตามธรรมชาติของร่างกาย ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวบริเวณคิ้วและใต้ตาจะยกกระชับ โดยควรเลือกทรีตเมนต์ MFUV ที่ผ่านการรับรองจาก FDA เพื่อที่คุณจะได้รับการรักษาที่ปลอดภัยและได้ผล

คุณชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้ด้วยทรีตเมนต์ความงามที่มีให้เลือกมากมายเพื่อช่วยให้ริ้วรอยรอบดวงตาของคุณดูดีขึ้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามมักเลือกใช้ทรีตเมนต์ความงามแบบต่างๆ ร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แล้วสิ่งที่ดีที่สุดก็คือ ทรีตเมนต์ส่วนใหญ่เหล่านี้ใช้เวลาไม่นาน ซึ่งคุณทำได้แม้อยู่ในช่วง “พักกลางวัน” โดยไม่ต้องพักฟื้นหรือพักฟื้นไม่นาน คุณจึงกลับไปทำงานต่างๆ ตามปกติได้ทันที

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาคุณได้แล้ววันนี้!