ต่อไปนี้เป็นวิธีช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้คุณดูเหนื่อยล้าอยู่ตลอด
“ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า เที่ยง หรือเย็นก็ไม่สำคัญเลย พอฉันส่องกระจก บริเวณรอบดวงตาของฉันจะดูเหนื่อยล้าอยู่ตลอด บ่อยครั้งที่เรื่องนี้ทำให้ฉันเศร้าหรือเครียดเรื่องรูปลักษณ์ของตัวเอง ถึงแม้จะได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ แต่ก็ไม่ดีขึ้นเลย ฉันจะทำอะไรได้บ้างเพื่อที่จะดูตื่นตัวและผ่อนคลายได้สักที”
แพทย์ผิวหนัง Dr. Monika Brück – เมืองร็อยท์ลิงเงิน ประเทศเยอรมนี
เธอไม่ได้กังวลเรื่องนี้คนเดียว! คนไข้หลายๆ คนมาหาฉันและบ่นว่าดวงตาของตัวเองดูอ่อนล้า มีปัจจัยที่แน่ชัดอยู่ 2 ประการสำหรับความร่วงโรยนี้ ได้แก่
ประการแรก ระยะห่างระหว่างดวงตาและคิ้วเป็นเรื่องสำคัญ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น คิ้วของเราจะตกลงเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้เราดูแก่และเหนื่อยล้ายิ่งขึ้น เนื้อเยื่อบริเวณใต้ตาก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน ผิวหนังค่อยๆ เริ่มสูญเสียความยืดหยุ่นและความเต่งตึงมาเรื่อยๆ ตามกาลเวลา โดยจะเห็นได้ว่าผิวหนังบริเวณกลางใบหน้าเริ่มย้อยและบริเวณรอบดวงตาก็มีรอยย่น
อย่างไรก็ตาม สัญญาณแห่งความร่วงโรยที่กล่าวไปนั้นสามารถรักษาได้ด้วยวิธีที่ไม่รุนแรงเลย ซึ่งก็คือเทคโนโลยีการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความเฉพาะเจาะจงและแม่นยำ (#mfuv) วิธีนี้ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่าปลอดภัยเพราะใช้เทคโนโลยีจำลองคอมพิวเตอร์เสมือนแบบเรียลไทม์ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว แพทย์สามารถสร้างภาพชั้นเนื้อเยื่อเป้าหมายที่อยู่ใต้ผิวหนังได้โดยตรง พร้อมกับส่งพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความเฉพาะเจาะจงและแม่นยำมุ่งตรงไปยังบริเวณเหนือคิ้ว หน้าผาก รวมถึงใต้ดวงตาด้วย โดยจะไปกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการตอบสนองและรักษาบาดแผลตามธรรมชาติ ซึ่งก่อให้เกิดการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนโดยประมาณ ผลลัพธ์ที่ได้คือแนวคิ้วที่ชัดและยกสูงขึ้น พร้อมด้วยเนื้อเยื่อใต้ตาที่แน่นกระชับขึ้น การดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดนี้ช่วยตอบโจทย์คุณได้ว่าจะต้องทำยังไงให้ตาดูไม่เหนื่อยล้า!
เชิญมาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามของเราเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทรีตเมนต์เทคโนโลยีการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความเฉพาะเจาะจงและแม่นยำได้เลย!